สรุปย้อมผมเสี่ยงมะเร็งจริงมั้ย? หมอบอก 2 อาชีพที่เสี่ยงถึง 2 เท่า

ความกังวลเกี่ยวกับการย้อมผมและความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะปัสสาวะเป็นข้อสงสัยที่หลายคนมี โดยเฉพาะเมื่อนายแพทย์หลิว ป๋อเหริน ได้เผยว่ามีผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะซึ่งเป็นอดีตครูหญิงวัย 65 ปี ที่ย้อมผมเป็นประจำทุก 2-3 เดือน มาปรึกษาด้วยความไม่สบายใจ คำถามที่ว่า "ฉันเป็นมะเร็งเพราะย้อมผมหรือเปล่า?" จึงเป็นประเด็นที่น่าสนใจและควรทำความเข้าใจให้ลึกซึ้ง

 

นายแพทย์หลิว ป๋อเหริน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและเวชศาสตร์ฟื้นฟูจากไต้หวัน ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับความกังวลเรื่องการย้อมผมกับความเสี่ยงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ หลังจากพบผู้ป่วยมะเร็งกระเพาะปัสสาวะวัย 65 ปี ซึ่งเป็นอดีตครูหญิง ที่ย้อมผมทุก 2-3 เดือน มาปรึกษาด้วยความไม่สบายใจ

 

 

• ยังไม่มีหลักฐานชัดเจน แต่กลุ่มอาชีพต้องระวัง

นายแพทย์หลิวชี้แจงว่า ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ความเกี่ยวข้องโดยตรงระหว่างการย้อมผมกับมะเร็ง แต่ผลวิจัยในปี 2014 ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Annals of Epidemiology ซึ่งรวบรวมข้อมูลจาก 17 งานวิจัยทั่วโลก และมีผู้เข้าร่วมกว่า 600,000 คน พบว่าในประชาชนทั่วไป การใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมไม่มีความสัมพันธ์ชัดเจนกับความเสี่ยงต่อมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ แม้ในกลุ่มที่ใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมสีเข้มจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถึงระดับที่มีนัยสำคัญทางสถิติ

 

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายแพทย์หลิวเน้นย้ำคือ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการย้อมผมเป็นประจำควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรงและต่อเนื่อง

 

• ปัจจัยเสี่ยงหลักของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่แท้จริง

นายแพทย์หลิว ป๋อเหริน ได้ระบุปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งได้แก่
การสูบบุหรี่
การสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
การอักเสบเรื้อรังของกระเพาะปัสสาวะ
การได้รับรังสีรักษา
การใช้ยาบางชนิด (เช่น ไซโคลฟอสฟาไมด์)
การสัมผัสสารเคมีจากอาชีพ ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม

ความเสี่ยงของกลุ่มอาชีพที่สัมผัสสารเคมี
นายแพทย์หลิว ยกตัวอย่างว่า ผู้ที่ทำงานในร้านเสริมสวย อุตสาหกรรมย้อมผม การฟอกหนัง หรือโรงงานเคมี หากต้องสัมผัสสารเคมีจากน้ำยาย้อมผมเป็นเวลานาน แม้ในปริมาณไม่มาก แต่หากไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ ก็อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะจากการสะสมของสารเคมีในระยะยาวได้

นอกจากนี้ ผลการทบทวนในปี 2024 ในวารสาร Romanian Journal of Occupational Medicine ยังระบุว่า ช่างทำผมและช่างตัดผมอาจมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะสูงกว่ากลุ่มอาชีพอื่นประมาณ 1.3 ถึง 2 เท่า โดยเฉพาะหากไม่ได้ป้องกันมือหรือทางเดินหายใจ ความเสี่ยงจะยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก และยังเตือนถึงน้ำยาย้อมผมรุ่นเก่าบางชนิดที่มีสารอะโรเมติกแอมีน ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มสารก่อมะเร็งชนิดร้ายแรงระดับที่ 1

คำแนะนำเพื่อความปลอดภัยและการป้องกัน
นายแพทย์หลิว ป๋อเหริน ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบอาชีพช่างทำผมและประชาชนทั่วไปดังนี้:

สำหรับผู้ประกอบอาชีพช่างทำผม
สวมถุงมือทุกครั้ง ขณะผสมน้ำยาย้อมผม
ทำงานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศดี
หลีกเลี่ยงการให้สารเคมีสัมผัสผิวหนังเป็นเวลานาน
ตรวจสุขภาพเป็นประจำ โดยเฉพาะการสังเกตความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะบ่อยผิดปกติ
สำหรับประชาชนทั่วไป:

เสริมการขับสารพิษในร่างกายผ่านพฤติกรรมการกิน โดยรับประทานผักตระกูลกะหล่ำ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำปลี คะน้า ผักกวางตุ้ง และร็อกเก็ต ซึ่งช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ขับสารพิษระยะที่ 2 ของตับ และลดความเสี่ยงการอักเสบและมะเร็งในทางเดินปัสสาวะและตับ
ดื่มน้ำให้มากขึ้น หลังการย้อมผม (อย่างน้อยวันละ 2,000 ซีซี)
ออกกำลังกายสม่ำเสมอและขับเหงื่อ เพื่อช่วยให้ร่างกายขับสารพิษได้ดีขึ้น
นายแพทย์หลิว ป๋อเหริน ทิ้งท้ายว่า แม้การย้อมผมเป็นครั้งคราวจะไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงมากนัก แต่การย้อมบ่อยเกินไปก็อาจมีข้อกังวลตามมาได้ การรักษาพฤติกรรมสุขภาพที่ดี จึงถือเป็นหนทางพื้นฐานในการป้องกันมะเร็งอย่างยั่งยืน

ข้อมูลจาก ETtoday