เด็กอายุ 13 กินแล้วนอนจนเป็นนิสัย สุดท้ายต้องหามส่งรพ. เจาะเลือดมายิ่งตกใจ

เด็กหญิงอายุ 13 กินแล้วนอนจนติดเป็นนิสัย สุดท้ายเกิดอาการปวดท้อง - อาเจียนบ่อย มีภาวะช็อกเฉียบพลัน เจาะเลือดมายิ่งอึ้ง
เด็กอายุ 13 กินแล้วนอนจนเป็นนิสัย สุดท้ายต้องหามส่งรพ. เจาะเลือดมายิ่งตกใจ : ใครที่กำลังติดนิสัย ไม่ค่อยกินมื้อหลัก ชอบกินของขบเคี้ยว กินรสเผ็ด กินเสร็จแล้วก็นอน ไม่ชอบออกกำลังกาย ต้องรีบเปลี่ยนตัวเองโดยด่วน เนื่องจากเสี่ยงเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ และภาวะช็อกเฉียบพลัน อย่างเคสล่าสุดพบในเด็กอายุแค่ 13 ปี
โดยเพจ World Forum ข่าวสารต่างประเทศ ได้โพสต์เตือนในกรณี เด็ก 13 ปี ที่เลือดกลายเป็นสีขาวขุ่น ว่า "เด็กหญิงอายุ 13 ปี ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อาเจียนบ่อย ตัวเปียก เย็น และมีอาการช็อก
เมื่อแพทย์เจาะเลือดออกมา 200 มิลลิลิตร พบว่าเลือดกลายเป็นสีขาวขุ่นคล้ายน้ำข้าวโพด ซึ่งเป็นไขมันที่ไม่ได้ย่อยจำนวนมาก โดยจากการตรวจสอบพบว่าเธอป่วยเป็นโรคตับอ่อนอักเสบรุนแรง จนเข้าสู่ภาวะช็อก
ซึ่งภายในครึ่งปี เด็กหญิงเข้าโรงพยาบาลมาแล้วกว่า 2 ครั้ง ทั้งนี้ยังมีนิสัยชอบกินของว่าง ของขบเคี้ยว ไม่กินมื้อหลัก ชอบกินไอติมแท่งเย็น รสเผ็ด มันฝรั่งทอด และหลังเสร็จ เด็กหญิงมักนอนบนโซฟาและเล่นโทรศัพท์มือถือทันที แถมยังไม่ออกกำลังกาย ทำให้เกิดไขมันในเลือดสูง จนเป็นโรคตับอ่อนอักเสบ
ด้าน เหวิน ซือฟาง แพทย์ผู้ดูแลเด็กหญิงรายนี้ กล่าวว่า เด็กหญิงป่วยด้วยโรคตับอ่อนอักเสบรุนแรงและไขมันในเลือดสูง เลือดที่ออกมามีสีขาวขุ่น เธอจำเป็นต้องเปลี่ยนพลาสมา และฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้ในประเทศจีนตื่นตระหนกกันเป็นอย่างมาก โดยมีการเตือนในหลายสื่อ ให้ประชาชนหันมาใส่ในในการกิน หันมาควบคุมอาหาร ทานผักผลไม้ ลดเผ็ด ลดไขมัน และออกกำลังกายมากขึ้น

วุ่นด่านบ้านคลองลึก ชาวกัมพูชาตกค้างโวย-ฝ่าแผงเหล็ก

เช็กเส้นทางหลีกเลี่ยง การชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 28 มิ.ย.นี้

ป้าทองเหลา พนง.เซเว่นฯวัยเก๋า ทำงานด้วยหัวใจ ไม่อยากเป็นภาระใคร

ยายวัย 63 เลี้ยงหลาน 4 คน ขอข้าววัดกิน แถมถูกแก๊งเงินกู้ตามทวงหนี้
