ทำไมเรียก "ตับหวาน" รสแซ่บจี๊ดจ๊าด จะหวานได้ไง

สงสัยกันไหม อาหารอีสานสุดฮิตจานนี้ทำไมเรียกตับหวาน ทั้งที่ทำเหมือนลาบแค่เปลี่ยนมาใช้ตับ แถมเป็นของคาวไม่ใช่ของหวานสักหน่อย
พูดถึงอาหารอีสานคู่ร้านส้มตำ นอกจากส้มตำ ลาบ ก้อย แล้วอีกหนึ่งเมนูฮิตในใจใครหลายๆคนก็ต้อยยกให้เมนูนี้เลย "ตับหวาน" แล้วเคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเมนูนี้ถึงเรียกว่าตับหวาน ทั้งๆที่รสชาติของมันเปรี้ยว เค็ม เผ็ด ซี๊ดซ๊าดออกไปทางลาบมากกว่าแถมเป็นเมนูอาหารคาวไม่ใช่ขนมหวานด้วย
ทำไมเรียก ตับหวาน เมนูนี้ เป็นอาหารคล้าย ๆ กับลาบสุก แต่ใช้ตับวัว หรือหมู หั่นเป็นชิ้นพอคำแล้วนำมาลวกสุก ๆ ดิบ ปรุงรสด้วย น้ำปลา น้ำปลาร้า มะนาว น้ำตาล และ โรย ข้าวคั่ว พริกป่น ใบสะระแหน่ ต้นหอมและหอมแดง ที่เรียกตับหวานเพราะว่าการทำตับหวานจะทำให้ตับไม่สุกมากเกินไป ให้มีความสุขประมาณ 80-90% เท่านั้น เมื่อกินเข้าไปจึงยังมีความเด้งหวานของตับสดตามธรรมชาติอยู่นั่นเอง
ตับหวานเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงมากๆถือ เป็นเมนูหลักของร้านอาหารอีสาน รู้จักกันทั่วทุกภาค เมนูจานนี้รสชาติจัดจ้านด้วยเครื่องปรุงสดใหม่ ตับหมูรวนพอสุกให้รสหวานและนุ่มลิ้น ตัดกับรสเปรี้ยวเค็มเผ็ด ของเครื่องปรุง เพิ่มรสสัมผัสด้วยข้าวคั่วหอมอร่อย
ส่วนผสม
ตับวัวหรือตับหมู 300 กรัม
พริกขี้หนูคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่วป่น 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
หัวหอมแดงซอยละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลาดี 2 ช้อนโต๊ะ
ใบสะระแหน่เด็ดเป็นใบๆ 4 ช่อ
ผักเครื่องเคียง ได้แก่ ใบโหระพา กะหล่ำปลี ถั่วฝักยาว
วิธีทำตับหวาน
1. ล้างตับให้สะอาด ล้างเลือดออกให้มากที่สุดแล้วแล่ตับเป็นชิ้นหนาประมาณ 1/2 ซม. นำไปลวกในน้ำเดือดให้สุกพอประมาณ แล้วพักใส่ชามผสมไว้ (ความสุกของตับแล้วแต่คนชอบ)
2. บีบมะนาวใส่ตับ คลุกเคล้าให้ทั่ว ใส่น้ำปลา หัวหอมแดงซอย พริกขี้หนูคั่วป่น ข้าวคั่วป่น
3. ชิมให้รสชาติพอดี แล้วจึงใส่ใบสะระแหน่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน ตักใส่จานรับประทานกับผักดิบ เช่น ใบโหระพา ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี

เงินปลิวว่อนทางด่วน แห่เก็บกันจ้าละหวั่น เสี่ยงคุกไม่รู้ตัว

"อนุทิน" ประกาศชัด ไม่เอากาสิโน หลังพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายค้าน

สุดอาลัย "ดนัย คงสุวรรณ์" นักแปลหนังสือชื่อดัง เสียชีวิตแล้ว

"จอนนี่มือปราบ" เดือด เตือนในฐานะอดีตตำรวจสายโจร เตรียมรับหมายเรียก
