ภัยใกล้ตัว พยาธิเม็ดเลือด โรคไข้เห็บ และวิธีดูแลรักษา

ภัยใกล้ตัว พยาธิเม็ดเลือด โรคไข้เห็บ และวิธีดูแลรักษา โดย สัตวแพทย์หญิง วรางคณา สังข์พิชัย เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค "เลี้ยงหมาตามหมอ"

โดยทางเพจได้ให้ข้อมูลผ่านช่องทางเฟซบุ๊กชื่อ เลี้ยงหมาตามหมอ เอาไว้ว่า เมื่อหมาหมอเป็น พยาธิเม็ดเลือด "เห็บที่มีเชื้อกัดตัวเดียว ก็เป็นได้แล้ว" นี่คือประโยคสำคัญที่อยากบอกเจ้าของให้เข้าใจ เชื่อว่า 80%ของคนที่เลี้ยง น้องหมาต้องเคยป่วย ไม่ว่าจะป่วยจากโรคนี้โดยตรง ป่วยแฝงๆ ไม่มีอาการ บังเอิญเจอ หรือเป็นแทรกซ้อนร่วมกับโรคอื่นๆ

พยาธิเม็ดเลือด ที่เจอกันบ่อยๆ ในบ้านเรามีอยู่ 3 ชนิด 2 ชนิดจากเห็บกัด อีกหนึ่งชนิดติดได้จากการที่น้องหมากินเห็บเข้าไป ถ้าจะพูดถึงอาการของโรคนี้ คือปัจจุบันพบได้ว่ามีหลากหลายมาก ตั้งแต่อาการทาง

1. ระบบเลือด: มีจ้ำเลือดออกตามตัว เลือดออกจากบาดเเผลอะไรก็ตามแล้วหยุดยาก หมอเคยเจอมาแล้วว่าเจ้าของแค่ตัดเล็บเข้าเนื้อ แต่เลือดออกไม่หยุดสักที ซึมๆออกมาเรื่อยๆทั้งที่ปกติ 1-2 นาทีก็ควรหยุดแล้ว พอมาตรวจก็พบว่าเป็นโรคนี้แฝง ที่ยังไม่แสดงอาการ

2. ระบบทางเดินอาหาร: ซึม ไม่กิน อาเจียน ถ่ายเหลว

3. ระบบขับถ่าย: เลือดปนออกมากับอึ หรือฉี่

4. ระบบประสาท: มีอาการอ่อนแรงฉับพลัน หรืออีกอย่างที่สังเกตง่ายๆคือ ตาฟ่า สีฟ้าๆ หรือที่หมอเรียกกันว่า Blue eyes (ตามในรูป) ตาแดงๆ มีเลือดออกในลูกตา

5. ระบบโครงสร้าง: เจ็บตามตัว จับแล้วร้องๆ เจ็บขา จากภาวะข้ออักเสบ

เจ้าของหลายคนถามว่า โรคนี้คือรุนแรงมั้ย ?

ถ้าตรวจเจอแต่แรก น้องหมายังกินอาหารได้ ป้อนยาได้ ไม่มีอาเจียน ก็รักษาให้หายได้ โดยการกินยาอย่างน้อย 28 วัน แต่ๆๆๆๆ.. ถ้าป่วยในระยะที่มากขึ้น เช่น เลือดจาง เกล็ดเลือดต่ำรุนแรง หรือระยะที่ตับไตเริ่มอักเสบมากๆแล้ว ต้องมีการถ่ายเลือด โอกาสเสียชีวิตก็จะสูงขึ้นตามลำดับนะคะ

การป้องกัน อย่างเดียวเลยคือ ป้องกันเจ้าตัวร้าย "เห็บ" นี่แหละ ตัวการต้นเหตุของโรค ต้องไม่ให้มีเห็บเลย 100% ซึ่งหมอก็เข้าใจว่ามันเป็นไปได้ยาก โดยเฉพาะบ้านเราที่อากาศร้อนชื้น เอื้อกับการแพร่พันธุ์ของเจ้าเห็บ ดังนั้น ป้องกันให้ดีที่สุด ที่เราจะสามารถทำได้ 

คุณสามารถติดตามอ่านบทความได้ที่เพจ เลี้ยงหมาตามหมอ และคุณจะไม่พลาดทุกสาระความรู้ดีๆ โดยสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ขอขอบคุณ : สัตวแพทย์หญิง วรางคณา สังข์พิชัย เจ้าของเพจเฟสบุ๊ค "เลี้ยงหมาตามหมอ"